บทสัมภาษณ์ผู้ประกอบการใหม่

คอร์สกาแฟ



สอนชงกาแฟ

พี่ลักษณ์ เจ้าของร้านกาแฟสุดสวย D'LAK Coffee จ.ชลบุรี  เป็นเจ้าของร้านที่ขายดิบขายดีต่อเนื่องตั้งแต่วันแรกที่เปิดร้าน  พี่ลักษณ์ให้สัมภาษณ์ด้วยความสุขหลังจากที่ได้เรียนส่วนตัวกับครูมด เป็นนักเรียนในคอร์สที่ทำงานโดยใช้ความสุขเป็นที่ตั้ง  สัปดาห์แรกที่พี่ลักษณ์เปิดร้านขายได้เฉลี่ย 65 - 90 แก้ว  สัมภาษณ์เจ้าตัว เจ้าตัวยังบอกไม่รู้ว่าแบบนี้ขายดีหรือป่าว  

 การทำธุรกิจกาแฟมีองค์ประกอบหลายอย่างที่ทำให้ขายดี  บางคนอาจจะกังวลเรื่องยอดขาย เรื่องทำเลที่ตั้ง  ซึ่งถ้าความกังวลเหล่านี้อยู่ในใจคุณก็อาจจะทำให้คุณไม่มีความสุขในการทำงานและทำให้ยอดขายไม่ดีก็ได้  จริงอยู่ที่ทำเลก็มีส่วนสำคัญในการขาย ทำเลคือสิ่งที่ทำให้ได้เปรียบในการค้า แต่ก็ยังมีองค์ประกอบอื่นๆ การบริการที่ดี สนุกกับลูกค้า บางที่ทำเลไม่ดีแต่อย่างอื่นดีก็ขายดีได้  บางที่ทำเลดีแต่ไม่มีคนเข้าก็มี แต่ละคนก็ไม่สามารถเลือกได้ว่าเราจะได้อยู่ในจุดแบบไหน  บางคนก็ต้องใช้เวลาในการสะสมจนมีชื่อเสียง  การมีครบหรือพร้อมทุกอย่างก็ไม่ได้ความว่าจะสำเร็จได้ มันมีองค์ประกอบหลายด้าน  ทำเลดี ชงอร่อย แต่ลืมใส่ใจกับความรู้สึกลูกค้าหรือรายละเอียดเล็กๆน้อยในการบริการ ก็อาจทำให้ลูกค้าเอาไปพูด หรือไม่พอใจในการบริการก็เป็นได้  ต้องปรับจุดอ่อนและจุดแข็งให้บาลานซ์กัน  


สอนชงกาแฟ

 ผมก็ได้สัมภาษณ์พี่ลักษณ์อย่างสนุก  รู้สึกดีใจคับที่พี่ลักษณ์ใส่ใจกลเม็ดเล็กๆน้อยที่ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่มันคือสิ่งที่ลูกค้าต้องการ  นอกจากได้สูตรที่อร่อยแล้วมันยังมีสิ่งอื่นที่ต้องใส่ใจกับลูกค้าอีก ผมกับครูมดสัมผัสได้ตั้งแต่ตอนที่พี่เขามาเรียน เราต่างพูดตรงกันว่า คอยดูนะพี่คนต้องขายดีแน่เรย 5555 ไม่ใช่ว่าเราไม่เชียร์ทุกคนนะคับ  เรายกพี่ลักษณ์มาเป็นตัวอย่าง แต่ยังมีนักเรียนที่น่ารักพี่ๆน้องๆอีกหลายคนที่เราปลื้มและเชียร์กันอยู่ เพียงแต่งานเยอะเรยไม่มีเวลาได้ถามไถ่คับ เราเห็นแววหลายๆคนคับ  กาแฟถ้าจะขายดีจริงๆ ผมมองว่ามันอยู่ที่ความสุขของคนทำ ทำด้วยความสุขและบริการด้วยความสุข มันเหมือนการทำอะไรที่เราฝัน เรารัก เราชอบ และอยากจะมีอยากจะเป็น หรือขอแค่มีส่วนร่วมเล็กๆน้อยในการทำอะไรซักอย่างแบบไม่ต้องฟิกเรื่องความคาดหวัง ผลลัพธ์จะออกมาดียอดเยี่ยม แต่ถ้าฟิกมันจะเกิดการคาดหวังจนเกิดอาการเกร็งกับตัวเองว่าอยากจะให้ทุกอย่างออกมาให้ได้ดั่งใจ  อันนี้ก็จะทำให้เรารู้สึกไม่มีความสุขในการชงหรือให้บริการกับลูกค้า  สำหรับคนที่มีความสุขในการทำอาหาร ชอบทำอาหาร  ชอบผสมปรุงแต่งรสชาดของอาหารอยู่บ่อยๆ จะเป็นข้อได้เปรียบมากๆในการเรียนชงกาแฟ  สิ่งที่เห็นในพี่ลักษณ์ตลอดเวลาที่มาเรียน คือแววตา ความสุข ในการชงกาแฟ และไม่ใช่พี่ลักษณ์คนเดียว มีอีกหลายคน หลายครอบครัวที่เราสัมผัส  รอยยิ้ม  แววตาของความสุข  ถ้าเป็นแบบนี้ในการขายกาแฟได้ทุกวันคุณไม่ต้องไปทำอาชีพอื่นหรือลงทุนอะไรเพิ่มแล้วล่ะค้าบ 5555  สิ่งที่ยากของธุรกิจกาแฟคือตอนเริ่มต้น  และสิ่งที่ยากยิ่งกว่าคือการรักษาคุณภาพให้คงเส้นคงวาตลอดไป    ท้ายสุดนี้คงมีเคล็ดลับสำหรับนักเรียนกาแฟมาฝากและอยากให้ลองนำไปใช้ดูนะคับ บางสิ่งควรทำบางสิ่งไม่ควรทำ




               1.ทำด้วยความสุขจริงๆ (อย่าคิดว่าลงทุนแล้วก็ขายๆไปดีกว่าไปลงทุนอย่างอื่น)
               2.อย่าตั้งยอดในใจ (วันนี้จะได้กี่แก้ว  แน่นอนธุรกิจทุกอย่างมีการตั้งยอด ยกเว้นกาแฟ คุณจะได้ยอดทะลุเมื่อคุณมีความสุขทุกแก้วที่ได้ทำให้ลูกค้าคุณ ลูกค้าจะมาทีละนิด) เพราะในธรรมชาติจริงๆยอดขายไม่นิ่งคับ ถ้าหากยอดขายไม่ดี จงยินดีที่จะบริการลูกค้า มีจำนวนน้อยก็ขอให้ยินดีที่ได้ให้บริการ
               3.ลูกค้ามีเงินซื้อแค่แก้วเดียวแต่อยากนั่งแช่นานๆ อยากนั่งอ่านหนังสือ อย่างนั่งเล่นโทรศัพท์ แต่ขอ "อยู่นานๆได้มั้ย" ต้องยินดี  เพราะความสบายใจของลูกค้า เขาจะไปพูดต่อเอง "มานั่งร้านนี้สิ กาแฟอร่อยจริงๆ เราอุดหนุนเขาแค่แก้วเดียว นั่งนาน เขาไม่ว่าอะไรเราเรยซักคำ คนขายก็น่ารักบริการดี วันหลังมาร้านนี้กันนะ"
               4.ธุรกิจอื่นคุณอาจทำหน้าเฉยๆ ไม่ต้องอะไรมากก็ได้  แต่ธุรกิจกาแฟ ห้ามหน้าบึ้งเด็ดขาด สำคัญมาก ยิ่งถ้าคุณเป็นคนอารมณ์ดี ยิ้มเก่ง คุยเก่ง ด้วยแล้ว ชนะไปกว่าครึ่งเรยตั้งแต่ยังไม่เปิดร้าน
               5.ถ้าลูกค้าไว้ใจร้านคุณแล้ว คุณจะได้ยินเรื่องราวสารพัดที่ลูกค้าประจำมานั่งร้านคุณ เขาจะเม๊าท์ให้คุณฟังเองเพราะเขาไว้ใจร้านคุณ และรู้สึกร้านคุณเหมือนเป็นที่ระบายอารมณ์ที่เขาไว้ใจได้  อยากมานั่ง อยากมาเมาท์  เจ้าของร้านต้องเก็บความลับลูกค้า ไม่พูดเรื่องของลูกค้าคนนึงให้ลูกค้าอีกคนฟัง  คือไม่เอาเรื่องของลูกค้าคุณไปฝอยให้คนอื่นฟัง
                6.สังเกตุความชอบของลูกค้าแต่ละคน ว่าเขาสนใจเรื่องอะไร ชอบอะไร และถามไถ่เขาในเรื่องที่เขาชอบ เขาจะมีความสุขมากๆ บางคนชอบฟุตบอล บางคนชอบแต่งตัว ชอบแฟชั่น บางคนชอบดูข่าว ชวนคุยถามไถ่แบบพอประมาณ
                7.มันจะมีเหตุการณ์ที่ทำให้คุณหงุดหงิด เช่น ลูกค้าสั่งผิด  โทรมาสั่งคุณว่าเอาลาเต้ แต่จริงๆลูกค้าต้องการคาปูชิโน่  แต่ดันพูดว่าลาเต้  พอคุณทำเป็นลาเต้ไว้ให้ ลูกค้ามาบอกว่า ผมไม่ได้สั่งลาเต้ ผมโทรมาสั่งคาปูชิโน่  คุณต้องทำคาปูชิโน่ให้เขาแม้คุณรู้ว่าลูกค้าสั่งผิดเอง เปลี่ยนให้โดยไม่โวยวายและต้องขอโทดเขาที่คุณทำให้ผิด  จะมีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นจริงๆ ห้ามหงุดหงิดเด็ดขาด 

     






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น